หนองต่าง ๆ ที่สำคัญ


หนองต่าง ๆ  ที่สำคัญ
            บ้านยางชุมใหญ่เป็นหมู่บ้านการเกษตรมีความอุดมสมบูรณ์ไปด้วยน้ำ  มีหนองน้ำมากมาย  และมีบึงรอบหมู่บ้านเป็นที่เลื่องลือว่าอุดมสมบูรณ์ไปด้วยข้าวปลาอาหาร  เป็นส่วนหนึ่งของแหล่งหาอาหาร  ทุ่งหญ้าล้อมรอบ  มีฝูงสัตว์ที่กินหญ้าเป็นอาหารจำนวนมากมาย  เช่น  เก้ง  กวาง  วัว  ควาย  และสัตว์เล็กสัตว์น้อย  เช่น  นก  เหยี่ยว  แร้ง  กา  หนู  กระรอก  กระแต  และสัตว์น้ำ  ได้แก่  กุ้ง  หอย  ปู  ปลา  งู  เต่า  ชาวบ้านที่มีไร่นา  ใกล้หนองโนส่วนใหญ่เป็นคนยากจนของหมู่บ้านมาก่อน  หรือไม่ก็เป็นคนที่เกิดในครอบครัวที่มีลูกหลายคน  ไม่มีที่ทำกินใกล้บ้าน  เพราะส่วนใหญ่แล้วผู้มีอันจะกินหรือมีลูกน้อยคนที่จะมีที่ทำกิน  มีนาใกล้บ้าน  เช่น  นาบึง  คนที่มีนาในบริเวณใกล้หนองโนจะได้รับความลำบากในการปลูกข้าว  เพราะถูกรบกวนจากสัตว์ทางอากาศก็มาก  พวก  นก  เหยี่ยว  กา  แมลง  ทางบกก็  กวาง  เก้ง  วัว  ทางน้ำก็ปู  ทำให้การปลูกข้าวไม่ได้ผลเต็มที่  คนที่ทำนาแถวนี้ต้องคอยไล่สัตว์อยู่ตลอดเวลา  ส่วนคนที่ชอบเป็นนายพรานล่าสัตว์  คนที่ชอบประมงน้ำจืด  จะเหมาะมาก  บริเวณแถวนี้มักจะเป็นที่กล่าวขวัญของผู้หาปลาขายส่งตลาดศรีสะเกษ  และนักล่าปลาสมัครเล่น  ทุกปีในฤดูฝนจะมีผู้คนพุ่งพล่าน  ยกขบวนมาขบวนละ  5 10  คน  มาพักแรมคืนหาปลา  ส่วนใหญ่ก็ได้กันทุกคนนำไปขายส่งตลาด
            คนที่มาหาปลาส่วนหนึ่งเพื่อประกอบอาชีพนำไปขาย  ส่วนหนึ่งเพื่อความเพลิดเพลิน  เป็นงานอดิเรก  พักผ่อนยามว่าง  ส่วนหนึ่งเพื่อหาประสบการณ์การแรมคืน  ต้องหาปลา  ต้องทนทรมานกับยุง  บางคนก็สนุกสนานนำสุรามาดื่มหาปลามาเผา  คนที่หาปลาทั้งจากต่างถิ่นและในถิ่นมีทั้งคนดีและคนไม่ดี  บางคนเข้าไปในที่นาก็ขอพักเถียงนา  บางคนก็ถือวิสาสะเข้าไปอาศัยโดยไม่บอกกล่าว  ข้าวของที่ไร่นาบางทีก็ได้รับความเสียหาย  ทิ้งร่องรอยแห่งความสกปรก  แต่บางคนก็มีอัธยาศัยดี  ผูกไมตรีกับเจ้าของท้องถิ่น  มีข้าวปลาอาหารก็แบ่งสู่กันกิน  ถือเป็นญาติมิตรที่ดีไปมาหาสู่กันแทบทุกปี  ทุกวันนี้คนส่วนใหญ่เห็นแก่ตัวมากขึ้น  มักจะเข้าไปตักตวงเอาผลประโยชน์ของตนแล้วรับหนี  ใครจะเสียหายก็ช่าง  มีทั้งคนในถิ่นและคนต่างถิ่น  เมื่อไปหาต๊กแตนที่ไร่นา  สวน  ก็มักจะเก็บเอาผัก  ผลไม้เขา  จนเป็นที่กล่าวทั่วไปว่าคนที่หากินตอนกลางคืนจะเป็นโจรโดยไม่ตั้งใจประมาณ  70  เปอร์เซ็นต์  ไปหาตั๊กแตนแต่ได้พริกกับมะเขีอเต็มข้อง  คือเมื่อไปหาตั๊กแตน  ได้บ้างไม่ได้บ้างก็เก็บแตงเก็บมะเขือ  พริก  ของชาวบ้านไปด้วยแถมเอาไปขายตลาดอีกต่างหาก  แต่คนที่เป็นเจ้าของสวนต้องได้รับความเสียหาย  ไร่นาก็โดนเหยียบย่ำ  ขโมยปลาในบ่อ  เหยียบข้าวเสียหาย  ปัจจุบันจึงมีเจ้าของนาเจ้าของสวนต้องคอยดูแล  คอยดักดูว่าใครสร้างความเสียหาย  บางทีก็จับผู้ทำลายได้  ต้องปรับไหมเป็นเงินกันหลายบาท
            ตอนสมัยข้าพเจ้าเป็นเด็กนักเรียนประมาณอายุ  7 8  ปี  อาม้า  ( แม่ใหญ่ผัน ของข้าพเจ้าได้ไปเฝ้าบ่อปลาในฤดูแล้งเพราะกลัวคนจะไปขโมยปลาในตอนกลางคืน  พอตกหัวค่ำข้าพเจ้ากับอาม้าก็จะเดินออกจากหมู่บ้านไปทางด้านทิศตะวันออก  บนเส้นทางไปบ้านลิ้นฟ้า  จนเลยโนนสาวเล้า  ก็จะมีโพนปลวก  โพน  เคยมีคนเล่าว่าเป็นโพนผีโป่ง  ตกตอนกลางคืนมันจะออกหากินออกแสงวาบ ๆ  ข้าพเจ้าเมื่อไปถึงที่บ่อปลา  ก็จะนั่งคุยกันประสายายหลาน  อาม้ามีมีดอีโต้หนึ่งอันถือไว้  บอกว่าถ้ามีโจรหรือผีมาก็จะเอามีดนี้แหละฟันมัน  นั่งไปด้วย  ตบยุงไปด้วย  อาม้าเล่าว่ามีผีชนิดหนึ่งที่ชอบออกหาปลากินในตอนกลางคืน  คือผีโพง  มันจะออกแสงวาบ  และจะโผล่ตรงนั้นที  ตรงนี้ที  ในขณะนั้นเงียบมาก  มีแต่เสียงปลากระโดดอยู่ในบ่อ  ตบยุงไปคุยกันไป  ขณะนั้นก็มีแสงวูบขึ้นทางด้านทิศใต้ของบ่อทางบ้านดินดำห่างออกไปประมาณ  500  เมตร  พอสักครู่ก็วูบทางด้านทิศตะวันออก  ทางไปบ้านลิ้นฟ้า  ประมาณ  300  เมตร  ข้าพเจ้าตกใจมาก  อาม้าบอกว่าไม่ต้องกลัว  ถ้ามันมาจะเอามีดอีโต้นี้แหละฟันมันเลย  ( เมื่อข้าพเจ้าได้เรียนสูงขึ้นได้ทราบจากครูวิทยาศาสตร์ว่าปรากฏการณ์ดังกล่าวเกิดจากซากพืชซากสัตว์ที่หมักหมมกัน  เป็นแก๊สและระเบิดเป็นประกายไฟได้ พอตกดึกประมาณ  3 ทุ่ม  ข้าพเจ้ากับอาม้าก็จะเดินทางกลับ  โดยถือไฟฉายส่งเส้นทางกลับบ้าน  กว่าจะได้เอาปลาขึ้นจากบ่อก็ต้องเฝ้ากันอยู่หลายวัน  เวลาจะเอาปลาขึ้นจากบ่อก็แสนจะลำบากกว่าทุกวันนี้ยิ่งนัก  ต้องระดมญาติ ๆ  ลูกหลานกันไป  กาปี๊ปมาผูกเชือกมัดหัวมักท้าย  สองคนดึงเชือกที่ฝั่งให้ปี๊ปตักเอาน้ำแล้วดึงขึ้นมาเทบนปากบ่อ  ถ้าเหนื่อยก็เปลี่ยนกันเป็นคู่ ๆ  เกือบตลอดวันจึงเอาน้ำขึ้นจากบ่อเสร็จค่อยลงไปเก็บปลา  ส่วนเด็ก ๆ  ลูกหลาน  งานนี้ก็สนุกสนานกันได้ทั้งวัน  ทั้งกินปลาเผา  ต้มปลา  ลาบปลา  ก้อยปลา  และที่สุดยอดจริง ๆ  ก็คือเล่นกันตลอดวัน  กระโดดลงน้ำโคลน  ฝึกหัดมุดน้ำ  ว่ายน้ำ  สาดน้ำ  มอมแมมกันทั่วหน้า  แต่อาหารก็แสนจะอร่อย  คงเป็นด้วยความเหนื่อย  ตกเย็นเก็บปลาเสร็จก็แบ่งกันกลับบ้าน  บ่อแต่ละบ่อเมื่อเก็บปลาทุกปีจะต้องบอกลูกหลานญาติพี่น้องกันทุกคน  ให้ได้กินกันถ้วนหน้า  จนแทบทุกหนองพ่อแม่จะไม่แบ่งให้ใครก็หวังว่าจะให้ลูกหลานได้มาโฮมกัน  มากินปลาฮ่วมสร้างมากินข้าวฮ่วมเล้าหวังให้ลูกหลานฮักกันสามัคคีกัน  แต่ปัจจุบันเพี้ยนไปแล้ว  ไม่ว่าจะเป็นพี่น้องหรือญาติเมื่อได้ครอบครองบ่อปลาก็มักจะขายเอาเงินเข้ากระเป๋าไปใช้หนี้  หรือไม่ก็โดนสภาตำบลโดยกลุ่มผู้นำขึ้นทะเบียนเป็นทีสาธารณะประโยชน์แล้วขุดบ่อนำปลาไปขายเอาเงินบำรุงสภาไป
            หนองโน  ครั้งหนึ่งคือหนองน้ำขนาดใหญ่เป็นที่หาปลาร่วมกันของชาวบ้านยางชุมใหญ่กับบ้านลิ้นฟ้า  เมื่อถึงฤดูแล้งผู้ใหญ่บ้านทั้งสองบ้านก็จะนัดหมายกันและตีกอรอแจ้งข่าวบอกลูกบ้านว่าพรุ่งนี้จะลงหนองโนเด้อ  พอถึงตอนเช้าประชาชนทั้งสองหมู่บ้านก็จะนำแห  สุ่ม  สวิง  ข้องลอย  ห่อข้าว  ไปรวมกันที่บ่อสระหนองโน  เมื่อผู้ใหญ่บ้านทั้งสองหมู่บ้านบอกว่าลงได้คนทั้งสองหมู่บ้านก็จะลงกันเต็มหนอง  ทั้งเด็ก  ผู้ใหญ่  หนุ่ม  สาว  ทั้งหาปลา  ทั้งคุยกัน  หัวเราะกันสนุกสนาน  สักครูก็มีคนชูปลาช่อนตัวใหญ่ขึ้นให้เพื่อนดูและร้องด้วยความดีใจว่าได้ปลาค่อใหญ่แล้ว  ทุกคนก็ดีใจด้วย  บางคนก็รีบหาจะได้ปลาตัวโตเหมือนเข้าบ้าง  บางคนชูให้เพื่อนดูแล้วปลาหลุดมือไปทำหน้าจ๋อย  คนที่ตึกแหเอาเท้าเตะน้ำและหว่านแหลงไปแล้วมุดงมหาปลา  ส่วนคนที่มีสุ่มก็สักสุ่มบริเวณใกล้ ๆ  ขอบบ่อ  ส่วนคนที่มีสวิงก็หาปลาน้อยที่ขอบบ่อ  ส่วนใหญ่ชายหนุ่มจะใช้แห  ผู้หญิงมักใช้สวิง  เด็ก ๆ  คอยจับปลาที่ขอบบ่อ  เผาปลาบ้าง  ลงไปเล่นบ้างถ้าเหนื่อย  หรือหนาวก็ขึ้นมาผิงไฟ  เป็นที่สนุกสนานกันทั้งวัน  พอตกเย็นขึ้นจากบ่อค่อยมาดูข้องกัน  ( ก็เลยมีสำนวนว่า  คั่นขึ้นจากบ่อค่อยเบิ่งข้องกัน  เปรียบให้เด้กเห็นเกี่ยวกับการศึกษาว่า  บางคนเรียนเก่งเมื่อเด็ก  พอโตขึ้นก็กลับกลายเรียนไม่สำเร็จ  แต่บางคนค่อยเรียนไป  อาศัยความขยันเก็บเล็กผสมน้อย  สุดท้ายอาจประสบความสำเร็จมีงานที่ดีทำก็ได้  เพราะฉะนั้นอย่าเพิ่งเยาะเย้ยกัน เมื่อมาเบิ่งข้องกันเห็นว่าเพื่อนได้ปลาน้อยกว่าตน  หรือมีแต่ปลาตัวเล็ก ๆ  ชาวบ้านเขาก็จะแสดงน้ำใจโดยการแบ่งปันกันกลับบ้านเกือบเท่า ๆ  กัน  การหาปลาจึงเป็นคล้ายเกมกีฬาสนุกสนาน  แต่การได้ปลามักจะได้ใกล้เคียงกัน  การแบ่งปันคือน้ำใจไมตรีที่มีต่อกันทั้งผู้ให้และผู้รับ  สร้างความคุ้นเคยกันของผู้คนระหว่างหมู่บ้าน  เวลาไล่ปลาก็จะเรียกชื่อกัน  ถ้าอายุไล่เลี่ยกันก็จะเรียกว่าเสี่ยว  พอขึ้นจากบ่อก็มากินข้าวด้วยกันบางทีก็ผูกเสี่ยวไปเลย 
            ทุกวันนี้ทั้งสองหมู่บ้านคือบ้านยางชุมใหญ่  บ้านลิ้นฟ้า  ถึงจะมีเหล่ากอคนละอย่าง  ( ฟังจากสำเนียงภาษาพูดบ้านลิ้นฟ้าจะมีสำเนียงต่างจากบ้านยางชุมใหญ่  และดูโครงร่างของผู้คน  คนบ้านลิ้นฟ้าจะสูงใหญ่กว่า แต่ความสนิทสนมกลมเกลียวแล้วเหมือนญาติสนิทเหมือนคนบ้านเดียวกัน  มีคำพูดติดปากมาจนกระทั่งทุกวันนี้ว่า  บุญบ้านยางชุมใหญ่กะคือบุญบ้านลิ้นฟ้า  เมาได้เหมิดมื่อเหมิดเว็น  บุญบ้านลิ้นฟ้ากะคือบุญบ้านยางชุมใหญ่กะเมาคือเก่า   บ้านยางชุมใหญ่ทุกคนต้องมีเสี่ยวบ้านลิ้นฟ้า  และบ้านลิ้นฟ้าทุกคนกะต้องมีเสี่ยวบ้านยางชุมใหญ่  ไผบ่อมีเสี่ยวของแต่ละบ้านถือว่าผิดปกติ
            การพัฒนาคือการทำลาย  เป็นคำกล่าวของนักอนุรักษ์นิยมดูเหมือนจะเป็นจริงเมื่อสภาตำบลลิ้นฟ้าได้ของบประมาณไปขุดลอกหนองโนให้ลึกขึ้น  มีฝั่งที่สูงใหญ่ใช้ปลูกต้นไม้มากมาย  นำคณะกรรมการสภาตำบลไปกินข้าวป่า  ไปประชุมที่ฝั่งหนองโน  สิ้นปีก็นำปลาไปขายมาบำรุงสภาตำบล  ความดีใจมีไม่นานนัก  ปัจจุบันปลาก็ไม่มีลึกเกินไป  คนประมูลเอาปลชาก็ไม่ประมูลไม่คุ้มค่าในการซื้อน้ำมันมาสูบน้ำ  ชาวบ้านก็หาปลาไม่ได้ไม่มีปลาและลึกเกินไป  แถมกลัวผิดกฎหมายบ้านเมือง  เดี๋ยวสภาตำบลจะแจ้งจับ น่าเสียดาย  วัฒนธรรมการหาปลาที่ทุ่งหนองโน  การผูกมิตรไมตรีที่ดีต่อกันของสองหมู่บ้านได้จางหายไปบรรพชนที่คิดดีออกอุบายให้คนทั้งสองหมู่บ้านได้รักกัน  ให้ลูกหลานมีน้ำใจแบ่งปันปูปลาต่อกันได้สูญสิ้น  ยังคนเห็นแต่ความเห็นแก่ตัวปลูกฝังรากเหง้าทุนนิยม  ให้ลูกหลาน  มองเห็นแต่เงิน  มองเห็นแต่ผลประโยชน์ของตนของหมู่ของคณะการแย่งชิง  การรักษาผลประโยชน์ค่อนข้างจะรุนแรง  ช่วงหลังมาการประชุมสภาตำบลก็เล่นหมู่เล่นพวก  มีการฆ่าฟันทางความคิด  ทุบหม้อข้าวหม้อแกงกัน  อ้างอุดมการณ์  อ้างการรักษาผลประโยชน์ส่วนรวมกำนันตำบลลิ้นฟ้าโดนร้องเรียนให้พ้นจากตำแหน่ง  ท่าน  และเลขาสภาตำบลลิ้นฟ้าก็โดนเรื่องราวร้องเรียน  ความรักใคร่ต่อกันหมดสิ้น  ทุนนิยมเข้ามาแทนที่ทุกคนต้องรักษาผลประโยชน์และหาผลประโยชน์เพื่อตนเพื่อพวกพ้องจากข่าวมีหลายตำบลถึงขนาดฆ่ากันตาย  แต่คนเข้าไปทำงานในสภาทั้ง ๆ  ที่คนมีมาก  คนไม่ซื่อสัตย์ก็มีให้เห็นกันอยู่เป็นประจำ  ความมีน้ำใจ  ความซื่อสัตย์สุจริต  คงหมดสิ้นจากแผ่นดินนี้กระมัง  ข้าพเจ้าขอสรรเสริญ  ขอขอบคุณ  ไอ  เอ็ม  เอฟ  ที่ทำให้ประเทศไทยยากจนลง  ความเห็นแก่ตัว  เห็นแก่พวก  การรักษาผลประโยชน์จะได้หายหมดไปเพราะไม่มีผลประโยชน์  ไม่มีงบประมาณให้แย่งชิงกัน  คนจะได้มีพริกกินพริก  มีเกลือกินเกลือ  ช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกันมากขึ้น  การฆ่ากันก็จะไม่มี  วัฒนธรรมอันดีงามของท้องถิ่นจะหวลกำเนิดขึ้นมาใหม่อีกครั้งหนึ่ง
            หนองโนคือบทเรียนของผู้นำชุมชนว่าท่านพัฒนาหรือท่านทำลายกันแน่  ขณะที่ท่านยังไม่ทราบผลที่ตนดำเนินงานมากนัก  ท่านก็ผันงบประมาณสู่หนองเขมรอีกครั้งหนึ่ง  ท่านผันงบประมาณสู่บ่อใหญ่ในป่าช้าทางดรงเรียนก็ผันงบประมาณบ่อโรงเรียนก็ผันงบประมาณบ่อโรงเรียนตั้ง  2  บ่อ  ข้าพเจ้าไม่ตำหนิท่านเหล่านั้นอาจเป็นเพราะรัฐท่านแจ้งให้ขอบ่อได้  น่าจะตำหนิรัฐบาลปัญญาอ่อน  ผันงบประมาณมาสร้างแหล่งน้ำในเขตยางชุมน้อยและบริเวณรอบ ๆ  ทั้ง ๆ แถวนี้น้ำมันเหลือเฟือแล้ว  ผมเสียดายงบประมาณบ่อบาดาล  บ่อละแสนบาทที่ขุดเจาะที่ป่าช้าบ้านบอน  ขุดในป่าแต่ละหมู่บ้าน  99  เปอร์เซนต์ไม่มีการใช้ประโยชน์  แถมสระเล็กสระน้ำน้อยอย่างที่สระเส้นทางยางชุมน้อยศรีสะเกษ  ออกมาจากศรีสะเกษประมาณ  6 กิด่ลเมตร  เด็กชั้นประถมศึกษาปีที่  1 ก็คงทราบได้ว่ามันไม่มีประโยชน์  มันเสียเงินแผ่นดิน  ทั้ง ๆ  เป็นยุค  ไอ  เอ็ม  เอฟ  ก็ยังช่วยกันผลาญเงินของแผ่นดินกันขนาดนี้  แล้วประเทศไทยจะไม่ยากจนให้มันรู้ไป
            ขอขอบคุณ  ไอ  เอ็ม  เอฟ  อีกครั้งหนึ่ง  ขอให้ผู้นำชุมชนของเรามีสายตาที่กว้างไกล  รักษาขนบธรรมเนียม  ประเพณีอันดีงามให้ลูกหลานสืบทอดด้วย  อย่าหวังแต่ผลประโยชน์อย่ารักษาแต่ผลประโยชน์จนลืมลูกหลานโทษทีถ้าท่านตายไปผลประโยชน์ที่ท่านหวงแหนไว้ก็ไม่มีอะไร  ยังคงเหลือแต่วัฒนธรรมทุนนิยม  ความเห็นแก่ตัว  ลูกหลานแย่งชิงความเป็นใหญ่  ฆ่ากันตาย  สิ่งนั้นคือสิ่งที่ท่านต้องการหรือช่วยหันกลับมามองของดีที่พ่อแม่สั่งสอนไว้รักษาไว้จะดีกว่า  ยังไม่สายเกินไปที่เราจะเมตตากรุณาต่อกัน
            ทุกวันนี้ทุ่งหนองโนก็คือหนองธรรมดา  มีทุ่งนาที่กว้างใหญ่เป็นอู่ข้าวอู่น้ำของชุมชน  เป็นที่หาบังหอยส่งตลาด  เก็บผักตามหนอง  หาปลา  ข้าวกล้าอุดมสมบูรณ์



ขอขอบคุณข้อมูลดีที่มีประโยชน์จาก
 อาจารย์ซุนย้ง  แซ่เตียว
*ข้อมูลบางส่วนอาจมีส่วนที่เข้าใจผิดพลาดจึงขออภัย ณที่่นี้ด้วย*

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น